โตเกียว

เที่ยวEnoshimaจากโตเกียวแบบไปเช้าเย็นกลับ! ชมวิว “ภูเขาไฟฟูจิ” คู่กับ “ทะเล” !

สวัสดีค่ะทุกคน 🙌 วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์เดินทางไปเที่ยว Enoshima เกาะเล็ก ๆ สุดชิลล์ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว บอกเลยว่าใครอยากพักจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่อยากเดินทางไกล ที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ เพราะนอกจากวิวทะเลสวยๆ แล้ว ยังสามารถมองเห็นฟูจิซังจากที่นี่ได้อีก และมีสถานที่เที่ยวให้อีกเพียบ!

ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาเลย! จะเล่าให้ฟังว่าถ้าเดินทางจากโตเกียว โดยเริ่มต้นที่ชินจูกุ ต้องเดินทางยังไง เตรียมตั๋วอะไรบ้าง และมีอะไรน่าสนใจให้ทำที่Enoshimaบ้าง!🌊

วิธีเดินทางจากชินจูกุไป Enoshima ง่ายมากกกกกก (ก. ไก่ ล้านตัว)

ขึ้นรถไฟสาย Odakyu Line (Rapid Express) จากสถานี ชินจูกุ ไปยังสถานี Katase-Enoshima
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนด้วยนะคะ สะดวกสุด ๆ
ค่าโดยสารขาเดียวประมาณ 630 เยน แต่ถ้าอยากได้ความคุ้ม ขอแนะนำ Enoshima-Kamakura Freepass

Enoshima-Kamakura Freepass

เป็นตั๋วสุดคุ้มที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ เพราะตั๋วนี้รวมค่าเดินทางไปกลับจากชินจูกุถึง Enoshima และยังใช้เดินทางกับ รถไฟ Enoden (รถไฟที่วิ่งริมทะเล) ไปเที่ยวที่ Kamakura ต่อได้ด้วย

เงื่อนไขตั๋วโดยสาร Enoshima-Kamakura Freepass:

  • รถไฟสายโอดะคิว: ใช้เดินทางระหว่างสถานี Fujisawa และ Katase-Enoshima ได้ ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว
  • รถไฟโลคอลสาย Enoden: สามารถนั่งได้ ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ตลอดเส้นทาง
  • ใช้ได้ 1 วัน
  • ได้ส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะ Enoshima อีกด้วย

ราคา:1,640เยน
หมายเหตุ:ราคาตั๋วอาจแตกต่างกันตามสถานีต้นทาง


พร้อมเริ่มต้นการเดินทางกันหรือยังคะ? เราจะขึ้นรถไฟสายโอดะคิวจากสถานีชินจูกุเวลา 10:30 น. เมื่อถึงทางเข้ารถไฟสายโอดะคิวที่สถานีชินจูกุ ให้สังเกตกล่องสีขาวหรือสีเหลืองที่ประตู จากนั้นเพียงแสกน QR Code บนตั๋วดิจิทัลฟรีพาสก็สามารถเข้าใช้งานได้เลยค่ะ สะดวกและง่ายมากๆ!

※อย่างที่ทราบกันว่าสถานีชินจูกุขนาดใหญ่มาก อย่าลืมสังเกตทางเข้าของรถไฟ JR และรถไฟสายโอดะคิวให้ดี
ระวังจะเข้าผิดทางนะคะ!

หลังจากที่นั่งรถไฟมาแบบเพลินๆประมาณ70นาที ประมาณ 11:32 ก็มาถึงสถานี Katase-Enoshima

ถึง Enoshima แล้ว ไปไหนต่อดี?

เมื่อออกจากสถานี Katase-Enoshima เดินออกมาจะเจอสะพานที่เชื่อมไปยังเกาะ บรรยากาศริมทะเลสดชื่นสุด ๆ
ลมพัดเย็นสบาย เดินเพียงไม่นานก็ถึงเกาะแล้วค่ะ!

ระหว่างที่เดินข้ามสะพานก็แอบเห็นเงาคุ้นๆตา ถึงจะไม่ชัดแต่ก็รู้ทันทีว่าเป็นคุณฟูจิซังนั้นเอง
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส อย่าลืมมองไปทางขวาของสะพานนะคะ คุณจะได้เห็นฟูจิซังพร้อมกับวิวทะเลที่สวยงามค่ะ!

เมื่อข้ามมาถึงเกาะ Enoshima คุณจะเจอกับทางเดินที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่เลยค่ะ!

จุดหมายแรกของเราคือศาลเจ้า Enoshima Shrine ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์บนเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าสององค์ ผู้คนมักมาสักการะเพื่อขอพรในเรื่องความมั่งคั่ง สุขภาพ และความรักค่ะ

ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ได้ทั้งชมวิวและขอพรในที่เดียวกันค่ะ หากใครเดินขึ้นไม่ไหว บนเกาะมี Escar (บันไดเลื่อน) ให้บริการ ช่วยให้ขึ้นไปได้อย่างสบาย ๆ โดยมีทั้งหมด 3 ระดับ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อยค่ะ โชคดีที่ครั้งนี้เรามี Enoshima-Kamakura Freepass ทำให้ได้ส่วนลดค่าบันไดเลื่อนด้วยค่ะ

※ อย่าลืมโชว์ Enoshima-Kamakura Freepass เพื่อรับส่วนลดค่าบันไดเลื่อนได้เลย!

หลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาออกไปสำรวจเกาะต่อค่ะ ระหว่างทางเห็นคนเดินถือขนม ดูน่ากินมาก ยิ่งเดินไปก็ยิ่งได้กลิ่นหอม ๆ ของอาหารทะเลลอยมา แม้จะยังไม่หิว แต่ก็บอกเลยว่าต้องขอลองชิมสักหน่อยค่ะ!

นี่คือ Seafood Senbei (ข้าวเกรียบรวมทะเล) ถึงแม้จะเคยทานข้าวเกรียบทั้งของไทยและญี่ปุ่นมาหลายแบบแล้ว แต่แผ่นนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เพราะอัดแน่นไปด้วยปลาหมึก กุ้ง และหอยตัวใหญ่ ๆ เต็ม ๆ คำ ยิ่งกินยิ่งเพลิน รสชาติซีฟู้ดเต็ม ๆ บอกเลยว่าอร่อยมากกกกค่ะ

หลังจากอิ่มอร่อยกับของว่างแล้ว ก็ได้เวลาไปต่อค่ะ!
จุดหมายต่อไปคือด้านหลังของเกาะEnoshima หลายคนบอกวิว

ถ้ำอิวายะ (Iwaya Cave)

ถ้ำแห่งนี้เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นทะเลเป็นเวลานับปี ตั้งอยู่ปลายสุดของทางเดินเลียบชายฝั่ง โดยภายในถ้ำถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ว่ากันว่าในยุคเอโดะ ถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมากมายมาสักการะ เขซึ่งทั้งสองส่วนมีบรรยากาศเย็นสบายและเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสธรรมชาติและค้นพบความลึกลับที่ซ่อนอยู่บนเกาะนี้ค่ะ

※Hilighสำคัญ เชื่อกันว่าพลังจากภูเขาฟูจิถูกส่งตรงมายังถ้ำอิวายะแห่งนี้ค่ะ

หลังจากเดินชมวิวเลียบชายฝั่งและสำรวมความงามของถ้ำแล้ว ก็ถึงเวลาของมื้อเที่ยงพอดี

ที่Enoshima มีหลากหลายเมนูที่สะดุดตาและชวนให้อยากลอง หนึ่งในนั้นคือ ‘ชิราสุด้ง’ หรือข้าวหน้าปลาชิราสุ ที่เลื่องชื่อของEnoshima และพิซซ่า ‘บีอังก้า’ ที่นำชิราสุมารังสรรค์เป็นความอร่อยสุดพิเศษ!

ปลาหมึกย่างและอาหารทะเลย่างอื่นๆ มีกลิ่นหอมเย้ายวน ชวนให้น่าลิ้มลองมากๆ
เสน่ห์ของเอโนะชิมะคือการได้เพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดๆ พร้อมกับวิวภูเขาไฟฟูจิ

ระหว่างทางเดินมาถ้ำIwaya สังเกตเห็นหลายร้านแนะนำ サザエ親子丼 (Sazae Oyako Don) หรือ
ที่เรียกว่า “ข้าวหน้าหอยสังข์กับไข่”

ด้วยความอยากลองอะไรใหม่ๆ ครั้งนี้จึงไม่พลาดที่จะลองชิม “ข้าวหน้าหอยสังข์กับไข่”

เมนูนี้มีพระเอกหลักคือ หอยสังข์ญี่ปุ่น ซึ่งนำมาปรุงกับไข่และเครื่องปรุงรส ก่อนราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ ให้รสชาติกลมกล่อมและหอมอร่อย

ทานอาหารเสร็จแล้วก็ไปต่อกันที่   Enoshima Sea Candle

ประภาคารชมวิวสูงเด่นที่เป็นไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของเกาะค่ะ ขึ้นไปแล้วจะเห็นวิวรอบ ๆ เกาะ รวมถึงภูเขาไฟฟูจิในวันที่ฟ้าเปิด 

ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ มองไปทางไหนก็รู้สึกสดชื่นและสบายตา 

นอกจากนี้ ในช่วงกลางคืนยังมีการจัดแสดงไฟสุดตระการตา เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกอีกด้วย!

ก่อนจะออกจากเกาะ Enoshima มีอีกหนึ่งเมนูที่อยากให้ทุกคนได้ลอง คือชิราสุปัง (Shirasu Pan) ขนมปังที่มีไส้เป็น ชิราสุ ปลาตัวเล็ก ๆ (ของขึ้นชื่อประจำที่นี่) ผ่านการปรุงให้สุก และมาผสมกับเครื่องปรุงรส เช่น มายองเนสหรือชีส เพื่อเพิ่มรสชาติ ได้ทั้งความหอมของขนมปังและรสเค็มนิดๆ  ลองหามาชิมดูนะคะ! 

ที่เกาะเอโนชิมะยังมีขนมหวานน่าอร่อยอีกมากมาย
ขนมหวานยอดนิยมคือ ‘ไอซ์โมนากะ (Ice Monaka)’ ขนมที่ทำจากแป้งโมจิ นำมาทำเป็นแผ่นบาง แล้วย่างจนกรอบคล้ายเวเฟอร์ โดยทั่วไปมักสอดไส้ไอศกรีมวานิลลา ครีม หรือชาเขียว 

「French toast」ก็น่าทานสุดๆ ไม่อยากพลาดสักเมนู

เคล็ดลับการเที่ยว Enoshima

ถ้าไปในวันที่อากาศดี แนะนำให้ขึ้นจุดชมวิวแล้วมองออกไปยังชายฝั่งค่ะ
จะเห็นวิวของ ฟูจิซัง คู่กับทะเลที่สวยจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเลย

นอกจากเดินทางได้สบาย

ยังได้ส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ อีกด้วย อย่าลืมพกน้ำและรองเท้าสบาย ๆ เพราะบนเกาะมีเนินเยอะ เดินเพลิน ๆ อาจลืมเหนื่อยได้ แต่เผื่อไว้ดีกว่า!

ไหน ๆ ก็มี Enoshima-Kamakura Freepass อยู่ในมือแล้ว ก็ต้องใช้ให้คุ้มหน่อย! คราวนี้ขอเดินทางต่อไปยัง Kamakura โดยนั่งรถไฟสาย Enoden และแวะลงที่ สถานี Inamuragasaki ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมวิวชายทะเลที่สวยงามมาก


ของฝากยอดนิยมจากEnoshima

สุดท้ายนี้ ขอแนะนำของฝากยอดนิยมจากEnoshimaที่ไม่ควรพลาด 

เครื่องรางจากศาลเจ้าEnoshima
เครื่องรางจากศาลเจ้าเอโนะชิมะมีชื่อเสียงในเรื่องการเสริมดวงความรักและความสัมพันธ์ โดยเฉพาะ “มุซุบิโนะซุซุ” (ระฆังแห่งโชคดี) ที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยนำพาความรักที่ดีมาให้ได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางลายคลื่นทะเลหรือมังกร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นเอโนะชิมะได้อย่างลงตัว

สินค้าธีมรถไฟเอโนะเด็น (Enoden)
ของฝากที่ใช้รถไฟเอโนะเด็นเป็นแรงบันดาลใจ เช่น อุปกรณ์เครื่องเขียน พวงกุญแจ โมเดลรถไฟ และเสื้อยืด ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของฝากในสถานีเอโนะชิมะหรือสถานีฟูจิซาวะ

งานแก้วประดิษฐ์จากEnoshima
ของที่ระลึกที่ทำจากแก้ว เช่น เครื่องประดับและแก้วน้ำ ซึ่งมีลวดลายเกี่ยวกับตำนานเทพเจ้าเบ็นไซเท็น มังกรเทพเจ้า และเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด ถือเป็นของฝากสุดพิเศษที่แสดงถึงเรื่องราวและตำนานในพื้นที่เอโนะชิมะได้เป็นอย่างดี


Enoshima เป็นเกาะที่เหมาะสุด ๆ สำหรับการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวเลยค่ะ ใครที่ชอบวิวทะเล ศาลเจ้า และกิจกรรมชิลล์ ๆ  หรือต้องการพักจากเมืองใหญ่ ลองจัดทริปมา Enoshima และ Kamakura กันดูนะคะ บอกเลยว่าห้ามพลาด!
ส่วนตัวเราประทับใจมากกับการได้นั่งมองทะเล พร้อมเห็นฟูจิซังอยู่ไกล ๆ เป็นภาพที่สวยจนอยากเก็บไว้ในความทรงจำไปนาน ๆ ทริปนี้บอกเลยว่าคุ้มค่าเกินคาด!

ลองจัดทริปมากันดูนะคะ แล้วคุณจะหลงรักทั้ง 2 เมืองนี้แน่นอน!

3 จุดชมวิวฟูจิสุดปัง|เที่ยวไปกลับในวันเดียวจากโตเกียว

สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ! ดื่มด่ำกับวิวอลังการของภูเขาไฟฟูจิในทริปไปเช้าเย็นกลับใกล้โตเกียว
เต็มอิ่มกับเสน่ห์ธรรมชาติญี่ปุ่นที่คุณจะไม่มีวันลืม!

ภูเขาไฟฟูจิ

จุดเด่นของภูเขาไฟฟูจิ

1、รูปทรงที่งดงาม ภูเขาไฟฟูจิมีลักษณะเป็นรูปทรงกรวยสมดุลและสวยงามอย่างโดดเด่น
2、ภูเขาที่สูงโดดเด่น ไม่มีภูเขาสูงอื่น ๆ อยู่ล้อมรอบ ทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากระยะไกล
3、ยอดเขาสูงที่สุดในญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิมียอดสูงถึง 3,776 เมตร ถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
4、วิวที่สามารถมองเห็นจากทะเลจรดยอดเขา สามารถมองเห็นจากชายฝั่งทะเลจนถึงยอดเขาฟูจิได้ในระยะทางตรงเพียง 27 กิโลเมตร
5、ภาพหิมะขาวโพลนบนยอดเขา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม ยอดฟูจิจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวราวกับภาพวาด

ภูเขาที่มีลักษณะเด่นเช่นภูเขาไฟฟูจินี้ เป็นภูเขาที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลก

จุดชมวิวทั้งหมดนี้ถูกคัดสรรมาอย่างดี ให้คุณดื่มด่ำกับความงดงามของภูเขาไฟฟูจิ พร้อมสัมผัสธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นมุมถ่ายภาพที่ทุกคนจะประทับใจอย่างแน่นอน

1、จุดชมวิวภูเขาฟูจิยอดนิยม – เจดีย์ชูเรโตะ

2、สนุกกับการปีนเขาและชมวิวภูเขาฟูจิ

3、ดื่มด่ำกับวิวอันน่าทึ่งจากท้องทะเลไปจนถึงยอดภูเขาฟูจิ! สัมผัสเสน่ห์ของธรรมชาติในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร *มาพร้อมรีวิวประสบการณ์จริง!!


1. Arakurayama Sengen Park (เจดีย์ชูเรโตะ) – ชมวิวซากุระ เจดีย์ห้าชั้น และภูเขาไฟฟูจิ

สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็ง (Arakurayama Sengen Park) ได้กลายเป็นสถานที่โด่งดังระดับโลก ด้วยทิวทัศน์อันงดงามที่มีภูเขาไฟฟูจิและเจดีย์ห้าชั้นในภาพเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูซากุระ นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับการชมวิวที่รวมความงามของซากุระบานสะพรั่ง เจดีย์ห้าชั้น และภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นอย่างลงตัว

※จากทางเข้าสวนไปยังจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ต้องผ่านบันไดชัน 398 ขั้น และมีความสูงต่างระดับประมาณ 73 เมตร
  สำหรับผู้ใช้รถเข็นเด็กหรือรถเข็นผู้พิการ สามารถใช้เส้นทางเบี่ยงข้างบันไดได้ แต่จุดชมวิวจะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะทางบันไดเท่านั้น

วิธีการเดินทาง

・รถบัสด่วน

สถานีรถบัสด่วนชินจูกุ (บัสต้า ชินจูกุ) → [รถบัสด่วนไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ (ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที)] → ป้ายรถบัสชิโมะโยชิดะ → [เดินเท้า (ประมาณ 25 นาที)] → Arakurayama Sengen Park (เจดีย์ชูเรโตะ)

ชินจูกุーชิโมะโยชิดะ: เวลาที่ใช้และค่าโดยสารโดยประมาณ
รถบัสด่วน:เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ค่าโดยสาร 2,150 เยน ※เด็กประถมจ่ายครึ่งราคา

 ข้อมูลรถบัสด่วน・จองออนไลน์

การเดินทางจากอุเอโนะถึงชินจูกุ
จากสถานี JR อุเอโนะ (JR Ueno Station) โดยสายยามาโนเตะ (Yamanote Line) ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

รถไฟ

สถานีชินจูกุ (Chuo Line) → สถานีทาคาโอะ (Chuo Main Line) → สถานีโอตสึกิ (Otsuki Station) (Fujikyuko Line) → สถานีชิโมะโยชิดะ → [เดินเท้า (ประมาณ 20 นาที)] → Arakurayama Sengen Park (เจดีย์ชูเรโตะ)

ชินจูกุーชิโมโยชิดะ (เวลาที่ใช้เดินทางและค่าโดยสารโดยประมาณ
①รถไฟทั้งหมด (รวมรถไฟด่วนพิเศษและด่วนธรรมดา)เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ค่าโดยสาร 2,320 เยน
②รถไฟด่วนพิเศษสายตรงจากชินจูกุ (Fuji kaiyu) เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที ค่าโดยสาร 3,940 เยน
③ระหว่างสถานีชินจูกุและสถานีโอตสึกิ (รถไฟด่วนพิเศษ JR (Kaiji・Azusa)
 เวลาเดินทางประมาณ2 ชั่วโมง 10 นาที ค่าโดยสาร 3,340 เยน
 กรณีใช้รถไฟด่วนพิเศษ ของสายฟูจิคิวโคเซ็น ระหว่างสถานีโอตสึกิและสถานีชิโมะโยชิดะ
 มีค่าธรรมเนียมรถไฟด่วนพิเศษ: 400 เยน

หมายเหตุ: สำหรับเด็กประถมหรืออายุน้อยกว่า ค่าโดยสารประมาณครึ่งราคา

รายละเอียดรถไฟด่วนพิเศษ・จองตั๋ว

การเดินทางจากอุเอโนะไปยังชินจูกุ

จากสถานี JR อุเอโนะ โดยรถไฟสายยามาโนเตะ (วิ่งวงใน)
ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

Google MapsArakurayama Sengen Park (เจดีย์ชูเรโตะ)


2. ภูเขาทาคาโอะ – ภูเขายอดฮิตใกล้โตเกียว เพลิดเพลินกับการเดินเขาและชมวิวฟูจิ

ภูเขาทาคาโอะ อีกจุดที่สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิ ได้ใกล้ๆจากโตเกียว พร้อมกิจกรรมเดินป่าสุดเพลิดเพลิน
ด้วยความสูง 599 เมตร ในวันที่อากาศแจ่มใส สามารถชมวิวพาโนรามาของที่ราบคันโตและภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังเป็นภูเขายอดนิยมที่ได้รับการจัดอันดับสามดาวจากมิชลิน กรีนไกด์อีกด้วย

การเดินทางไปยังบริเวณกลางภูเขาทาคาโอะได้ง่าย ๆ ด้วยกระเช้าลอยฟ้าหรือลิฟต์
จากนั้นใช้เวลาเดินอีกประมาณ 60 นาที เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา โดยมีความสูงต่างระดับประมาณ 127 เมตร
ระหว่างทางจะมีวัดและร้านขายของฝากตั้งอยู่ ส่วนบนยอดเขามีร้านอาหารที่เสิร์ฟ เมนูง่าย ๆ เช่น โซบะ
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่สวยงามตามฤดูกาลอีกด้วย

ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คนจะเยอะมาก แนะนำให้มาเที่ยวในวันธรรมดาแทน

วิธีการเดินทาง 

รถไฟ

จากสถานีชินจูกุ (สายเคย์โอ) ー [รถไฟสายเคย์โอ|ประมาณ 50 นาที] ー สถานีทาคาโอะซังกุจิ ー [เดินประมาณ 5 นาที] ー สถานีคิโยทากิ ー [กระเช้า|ประมาณ 5 นาที] ー สถานีทาคาโอะซัง ー [เดินป่าประมาณ 60 นาที] ー ถึงยอดเขาทาคาโอะ

สถานีทาคาโอะซังกุจิ ประตูสู่ภูเขาทาคาโอะ เดินทางจากสถานีชินจูกุโดยรถไฟสายเคย์โอ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที

 การเดินทางจากอุเอโนะไปชินจูกุ
 เดินทางจากสถานี JR อุเอโนะโดยรถไฟสายยามาโนเตะ (ขาเข้า) ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

วิธีเดินทางจากสถานีทาคาโอะซังกุจิไปถึงยอดเขาทาคาโอะ

ใช้กระเช้าลอยฟ้าหรือลิฟต์ในการเดินทาง

 

เดินจากสถานีทาคาโอะซังกุจิ (สายเคโอ) ไปยังสถานีคิโยทากิของกระเช้าลอยฟ้าหรือลิฟต์ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
จากสถานีคิโยทากิ ใช้กระเช้าลอยฟ้าหรือลิฟต์ ขึ้นไปยังสถานีทาคาโอะซังบริเวณกลางภูเขา ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

 จากสถานีทาคาโอะซังไปยังยอดเขา ใช้เวลาเดินประมาณ 60 นาที (ความต่างระดับความสูงประมาณ 127 เมตร)         สำหรับรถเข็นเด็ก แนะนำให้ใช้เส้นทางหมายเลข 1 เป็นทางอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงบันได

※ช่วงเย็นในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันเทศกาล อาจมีผู้โดยสารจำนวนมาก และอาจต้องใช้เวลารอประมาณ 1ชั่วโมง 

เดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

 สามารถเดินเท้าขึ้นไปยังยอดเขาได้ โดยไม่ต้องใช้กระเช้าลอยฟ้าหรือลิฟต์

 ไเส้นทางหลักในการเดินขึ้นยอดเขา ได้แก่ เส้นทางหมายเลข 1, เส้นทางหมายเลข 6 และเส้นทางอินาริยามะ
 ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 
 ※ รถเข็นเด็กสามารถใช้ได้แค่เส้นทางหมายเลข 1 เท่านั้น

 ・เส้นทางหมายเลข 1 เป็นเส้นทางเดินเขาที่มีการปูพื้นไว้อย่างดี
 ・เส้นทางหมายเลข 6 เป็นเส้นทางเดินเขาที่เลาะไปตามแนวลำธาร
 ・เส้นทางอินาริยามะเป็นเส้นทางเดินเขาที่เลาะไปตามสันเขา

Google Maps ภูเขาทาคาโอะ

การเตรียมตัวและการแต่งกาย

สวมรองเท้าที่เดินสบายและแต่งตัวสบายๆ ได้เลย ในช่วงฤดูร้อนควรพกหมวกและเครื่องดื่ม
ส่วนในฤดูหนาวควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย


3. เดินทางจากชินจูกุเพียง 70 นาที ถึงEnoshima ชมวิวทะเลและภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา พร้อมอร่อยกับอาหารทะเลสดใหม่

Enoshimaเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้โตเกียว ที่นี่สามารถชมวิวภูเขาฟูจิที่งดงามได้แบบเต็มตา ตั้งแต่เชิงเขาที่ทอดตัวยาวจากทะเลไปจนถึงยอดเขา
นอกจากนี้ Enoshimaยังเป็นเกาะแห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์มาแต่โบราณ และปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคัก คู่กับ
“คามาคุระ” เมืองที่อยู่ใกล้เคียง

นอกจากภูเขาฟูจิแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับความนิยมในหมู่ครอบครัว อาหารทะเลสดใหม่ และยังมีสถานที่ถ่ายทำแอนิเมชันและภาพยนตร์มากมายอีกด้วย

วิธีการเดินทาง

รถไฟ

・ออกเดินทางและกลับจากชินจูกุ


สถานีชินจูกุ (สายโอดะคิว) ー [รถไฟสายโอดะคิว|ประมาณ 35 นาที] ー สถานีซางามิโอโนะ ー [รถไฟสายโอดะคิวเอโนชิมะ|ประมาณ 35 นาที] ー สถานีคาตาเสะเอโนชิมะ ー [เดินประมาณ 10 นาที] ー สะพานเอโนชิมะ


สถานีชินจูกุ ー [สายโชนันชินจูกุ (เชื่อมต่อสายโทไคโด)|ประมาณ 55 นาที] ー สถานีฟุจิซาวะ ー [รถไฟสายโอดะคิวเอโนชิมะ|ประมาณ 10 นาที] ー สถานีคาตาเสะเอโนชิมะ ー [เดินประมาณ 10 นาที] ー สะพานเอโนชิมะ

・ออกเดินทางและกลับจากอุเอโนะ

สถานีอุเอโนะ ー [สายอุเอโนะโตเกียว (เชื่อมต่อสายโทไคโด)|ประมาณ 55 นาที] ー สถานีฟุจิซาวะ ー [รถไฟสายโอดะคิวเอโนชิมะ|ประมาณ 10 นาที] ー สถานีคาตาเสะเอโนชิมะ ー [เดินประมาณ 10 นาที] ー สะพานเอโนชิมะ

Google Maps Enoshima

เส้นทางแนะนำ

จากชินจูกุโดยรถไฟสายโอดะคิวไปยังสถานีคาตาเสะเอโนชิมะ ใช้เวลาประมาณ 70 นาที

สนุกกับการเที่ยวEnoshimaและKamakuraอย่างคุ้มค่าและสะดวกสบาย ด้วย “Enoshima-Kamakura Freepass”

※ข้อควรทราบสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษRomancecarของสายโอดะคิว
 

ในช่วงเช้าวันธรรมดา รถไฟRomancecarไม่มีบริการไปยังเอโนชิมะ
แนะนำให้โดยสารRomancecarไปยังสถานีซางามิโอโนะหรือมาจิดะ จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วนพิเศษหรือรถไฟด่วนเพื่อเดินทางต่อ

จุดชมวิวภูเขาฟูจิที่แนะนำ

เอโนะชิมะซีแคนเดิล ( Enoshima Sea Candle) Google Map

Enoshima Sea Candle

สะพานเอโนชิมะ Google Map

 ชิโกะกะฟุชิ (Chigogafuchi Google Map

อินามุรากะซากิ (Inamuragasaki ) Google Map

จุดท่องเที่ยวแนะนำ

– ดื่มด่ำกับวิวของภูเขาฟูจิ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกที่ Enoshima Sea Candle
– ลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ พร้อมอร่อยกับเมนูขึ้นชื่ออย่าง “ข้าวหน้าหอยสังข์กับไข่ (Sazae Oyako Don)
– เสริมพลังและโชคลาภที่ ศาลเจ้าเอโนชิมะ หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยพลังงานบวก
– เดินทางในเกาะได้อย่างสะดวกสบายด้วย บันไดเลื่อน
– สัมผัสความงดงามของดอกไม้ตามฤดูกาลที่ Enoshima Samuel Cocking Garden

เคล็ดลับการท่องเที่ยว

หากคุณเที่ยวชมจนถึงช่วงเย็น คุณจะได้สัมผัสความงดงามของภูเขาฟูจิที่ตัดกับแสงอาทิตย์ยามเย็นอย่างสวยงาม
โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีโอกาสมองเห็นภูเขาฟูจิได้อย่างชัดเจนที่สุด


เที่ยวEnoshimaจากโตเกียวแบบเช้าเย็นกลับ! ชมวิว “ภูเขาไฟฟูจิ” คู่กับ “ทะเล” !

จากชินจูกุสู่Enoshima เกาะเล็กๆ ใกล้โตเกียวที่มีมากกว่าทะเลให้คุณได้สนุก!

สวัสดีค่ะทุกคน 🙌 วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์เดินทางไปเที่ยว Enoshima เกาะเล็กๆ สุดชิลล์ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว บอกเลยว่าใครอยากพักจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่อยากเดินทางไกล ที่นี่ตอบโจทย์มาก ๆ เพราะนอกจากวิวทะเลสวยๆ แล้ว ยังสามารถมองเห็นฟูจิซังจากที่นี่ได้อีก และมีสถานที่เที่ยวให้อีกเพียบ!

เตรียมตัวออกเดินทางกัน!อ่านต่อได้ที่นี่

เปรียบเทียบวิธีเดินทางจากสนามบินนาริตะไปยังชิบูย่า |โดย Skyliner, Narita Express และ Express Bus

5วิธีหลักๆในการเดินทางเข้าโตเกียวจากสนามบินนาริตะ (สนามบินนานาชาติโตเกียว)

1. รถบัสด่วน (รถลีมูซีนสนามบิน)
2. รถไฟ 1.Keisei Skyliner (รถไฟด่วนพิเศษแบบจองที่นั่ง)
3. รถไฟ 2.รถไฟด่วนสายKeisei
4. รถไฟ 3.รถไฟด่วนพิเศษ JR Narita Express
5. แท็กซี่

*ไม่มีบริการ Grab หรือ Uber ในญี่ปุ่น

วิธีการเดินทางที่เชื่อมสนามบินนาริตะและใจกลางกรุงโตเกียว

1. รถบัสด่วน (รถลีมูซีนสนามบิน)

รถบัสวิ่งให้บริการโดยตรง ไม่เพียงแค่สนามบินนาริตะและสถานีปลายทาง เช่น สถานีชินจูกุ สถานีชิบูย่า และสถานีโตเกียว แต่ยังให้บริการไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น โรงแรมใหญ่ๆ เมืองที่อยู่รอบนอกโตเกียว และเมืองในภูมิภาคอื่นๆ เพียงแค่เดินออกจากล็อบบี้ผู้โดยสารขาเข้าก็จะพบกับความสะดวก
แนะนำสำหรับผู้ที่มีสัมภาระเยอะ/ผู้ที่ต้องการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า และผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับโตเกียว

2. รถไฟ 1.Keisei Skyliner (รถไฟด่วนพิเศษแบบจองที่นั่ง)

เป็นรถไฟด่วนพิเศษแบบต้องจองที่นั่ง ที่ให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนาริตะกับสถานีนิปโปริและสถานีอุเอโนะ (สถานีเคเซอุเอโนะ) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จะให้บริการทุกๆ 20 นาทีโดยประมาณ ตั้งแต่ประมาณ 07.30 น. ถึงประมาณ 23.00 น.
ขอแนะนำสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความรวดเร็วและความสะดวกสบาย

3. รถไฟ 2.รถไฟด่วนสายKeisei

ใช้เส้นทางปกติที่เชื่อมต่อสนามบินนาริตะกับสถานีนิปโปริและสถานีอุเอโนะ (สถานีเคเซอุเอโนะ)
อาจใช้เวลามากกว่า หรืออาจจะต้องเปลี่ยนรถไฟ แต่สามารถเดินทางได้ในราคาประหยัดและตรงต่อเวลา
แนะนำสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับราคาและความเสถียร (เดินทางตรงเวลา)

4. รถไฟ 3.JR Narita Express (รถไฟด่วนพิเศษ ต้องจอกทุกที่นั่ง)

รถไฟด่วนพิเศษที่ให้บริการโดย JR East ที่เชื่อมต่อสนามบินนาริตะกับสถานีโตเกียว สถานีชินากาวะ สถานีชิบูย่า สถานีชินจูกุ ฯลฯ โดยสงวนที่นั่งไว้ทั้งหมด
แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการไปสถานีโตเกียว สถานีชินากาวะ สถานีชิบูย่า สถานีชินจูกุ หรือสถานีโยโกฮาม่า ตรงเวลา โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ

5. แท็กซี่

มีรถแท็กซี่จำนวนมากรออยู่ที่สนามบิน คุณสามารถนั่งแท็กซี่ไปยังสถานที่ที่ต้องการโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า นอกจากแท็กซี่มิเตอร์ธรรมดาแล้ว ยังมีแท็กซี่อัตราคงที่ (แท็กซี่สนามบิน) อีกด้วย แท็กซี่ราคาคงที่ (แท็กซี่สนามบิน) ก็มีให้บริการโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า
ค่าโดยสารจากสนามบินนาริตะไปยังใจกลางโตเกียวมีราคาประมาณ 30,000 เยน

* ไม่มีบริการ Grab หรือ Uber ในญี่ปุ่น


จัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโตเกียว

จำนวนผู้เยี่ยมชม
อันดับที่ 1 ชิบูย่า อันดับที่ 2 ชินจูกุ/โอคุโบะ อันดับที่ 3 กินซ่า

ระดับความพึงพอใจ
อันดับที่ 1 ชิบูย่า อันดับที่ 2 อากิฮาบาระ อันดับที่ 3 กินซ่า

*ที่มา: รายงานการสำรวจลักษณะพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประจำปี 2023 แยกตามประเทศ/ภูมิภาค

ดังนั้นเมื่อคุณมาถึงสนามบินนาริตะ ทำไมไม่มุ่งหน้าไปที่ชิบูย่าก่อนล่ะ?

ชิบูย่าเป็นเมืองที่มีบรรยากาศแบบไหน?


ตารางเปรียบเทียบการเดินทางจากสนามบินนาริตะไปยังชิบูย่า

วิธีการเดินทางระยะเวลาจำนวนการต่อเปลี่ยน หรือ ต่อรถราคาWifi/ที่ชาร์จแบตแพลตฟอร์ม
รถบัสด่วน

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
1 ชั่วโมง 40 นาที0 ครั้ง3,600 เยนมีล็อบบี้ผู้โดยสารขาเข้า
อาคาร1 จุดขึ้นรถNo.10
อาคาร2 จุดขึ้นรถNo.17
อาคาร3 จุดขึ้นรถNo.9
Skyliner

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
1 ชั่วโมง 30 นาที1 ครั้งประมาณ 2,800 เยนมีใต้ดิน
*ไม่มีจุดขึ้นรถที่อาคาร3
กรุณาขึ้นจากอาคาร2
รถไฟธรรมดา1 ชั่วโมง 40 นาที1-2 ครั้งประมาณ 1,500 เยนไม่มีใต้ดิน
*ไม่มีจุดขึ้นรถที่อาคาร3
กรุณาขึ้นจากอาคาร2
Narita Express(N’EX)

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
1 ชั่วโมง 20 นาที0 ครั้งประมาณ 3,300 เยนมีใต้ดิน
*ไม่มีจุดขึ้นรถที่อาคาร3
กรุณาขึ้นจากอาคาร2
แท็กซี่1 ชั่วโมง 30 นาที0 ครั้งประมาณ 30,000 เยนไม่มีล็อบบี้ผู้โดยสารขาเข้า

ประสบการณ์รถบัสด่วน (รถบัสลีมูซีนสนามบิน) จากสนามบินนาริตะถึงชิบูย่า

เครื่องบินที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิของกรุงเทพฯ สนามบินนานาชาติเติ่นเซินเญิ้ตของโฮจิมินห์ และสนามบินนานาชาติชางงีของสิงคโปร์ในช่วงกลางดึกของวันก่อนหน้า จะมาถึงสนามบินนาริตะระหว่างเวลา 7:00 น. ถึง 8:30 น. เครื่องบินที่ฉันขึ้นจากกรุงเทพฯ มาถึงสนามบินนาริตะโดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง และมาุถึงที่ญี่ปุ่นในเวลา 8 โมงเช้า

เวลาบินค่อนข้างสั้นทำให้ไม่ได้นอนเต็มที่ พอลงจากเครื่องบินก็ไปผ่านการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า และผ่านศุลกากร จนมาถึงล็อบบี้ขาเข้าของอาคารผู้โดยสาร 1 (T1) ก่อนเวลา 9.00 น. ตอนนี้จะไปที่พักที่ชิบูย่า จะเดินทางด้วยรถบัส? รถไฟ? หรือแท็กซี่ดี?

อยากนอนให้เต็มที่อีกนิด ละเพราะมีสัมภาระเยอะเลยตัดสินใจเดนทางด้วยรถบัสด่วน (แอร์พอร์ตลิมูซีนบัส) ที่สามารถขึ้นได้ จากตรงหน้าล๊อบบี้ของผู้โดยสารขาเข้าและวิ่งตรงถึงชิบูย่า
อย่างที่เห็นในภาพ เมื่อออกจากล็อบบี้ผู้โดยสารขาเข้า จะเจอเคาน์เตอร์ขายตั๋วรถบัสด่วนอยู่ตรงหน้า
ไม่ว่าคุณจะมาถึงสนามบินนาริตะ อาคารผู้โดยสาร 1 “ฝั่งเหนือ” หรือ “ฝั่งใต้” ก็จะอยู่ตรงหน้าคุณเลย

ทันทีที่ซื้อตั๋วรถบัสด่วนไปชิบูย่า ก็พบว่ามีรอบรถบัสไปชิบูย่า ออกเวลา 9:20 น. พอดี

สนามบินนาริตะ อาคารผู้โดยสาร 3 (T3)

อาคารผู้โดยสาร 2 (T2)

อาคารผู้โดยสาร 1 (T1)

สถานีชิบูย่า (Shibuya Fukuras)

Cerulean Tower Tokyu Hotel
ดูเหมือนว่าจะจอดที่ Shibuya Mark City (Shibuya Excel Hotel Tokyu) ตามลำดับ

สามารถซื้อตั๋วรถบัสทางด่วนได้ที่เคาน์เตอร์ที่มีพนักงานประจำและเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งสะดวกมากเนื่องจากมีให้บริการในภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลี และจีน ยังสามารถชำระได้ด้วยบัตรเครดิต

ซื้อตั๋วแล้วก็ออกจากล็อบบี้ผู้โดยสารขาเข้า
และมุ่งหน้าไปยังอาคาร1 จุดขึ้นรถNo.10 ซึ่งเป็นป้ายรถบัสด่วนที่จะมุ่งหน้าไปชิบูย่า
หากมาที่ฝั่งเหนือ ให้ออกจากทางออกทิศเหนือ (N2)ตรงหน้าจะเจอจุดขึ้นรถบัสด่วนหมายเลข 1 จากนั้นเดินตามทางไปจนถึงจุดขึ้นรถบัสด่วนหมายเลข10 (ประมาณ 2 นาที) หากมาถึงฝั่งทิศใต้ เมื่อคุณออกจากทางออกทิศใต้ (S2) ตรงหน้าจะเป็นจุดขึ้นรถบัสด่วนNo.10 เลย (ถ้าดูแผนที่ทั้งหมดของป้ายรถบัสที่เทอมินอล 1 จะเข้าใจง่ายขึ้น)

ขณะรอรถบัสด่วนไปชิบูย่าที่จุดขึ้นรถNo.10 ของอาคารผู้โดยสาร 1 คนเริ่มมาต่อแถวกันเรื่อยๆ

รูปภาพทางด้านซ้ายคือร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ในล็อบบี้ผู้โดยสารขาเข้าฝั่งใต้
จะซื้อเครื่องดื่มหรือขนมที่นี่ก็ได้!
สามารถใช้บัตรเครดิตได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากคุณไม่มีเงินเยน
การแลกเงินเยน ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวที่Shibuya Fukuras Terminal นั้นสะดวกและง่ายดายมาก

คนเริ่มมาต่อแถวมากขึ้น จึงคิดว่าคนที่จะขึ้นรถบัสด่วนไปชิบูย่ามีเยอะมาก และพอเห็นเจ้าหน้าที่เดินไปถามผู้โดยสารบางคน ก็เลยเริ่มสงสัย
นอกจากนี้จุดขึ้นรถหมายเลข10 ใช้ร่วมกันระหว่างป้ายขึ้นรถบัสด่วนไปชิบูย่าและไปสถานีโตเกียว โดยจะแบ่งผู้โดยสารที่ไปชิบูย่ากับไปสถานีโตเกียวออกเป็น 2 แถว
เจ้าหน้าที่จะถามคุณ ดังนั้นเพียงแค่ตอบว่า “ชิบูย่า” แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะพาคุณไปยังแถวที่ไปชิบูย่า
เนื่องจากรถบัสด่วนไปชิบูย่าจะมาถึงก่อน กระเป๋าเดินทางที่จะฝากไว้ในห้องเก็บสัมภาระของรถจะถูกวางไว้ด้านข้างถนนก่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับรถบัสด่วนไปชิบูย่า ทุกคนสามารถฝากกระเป๋าเดินทางได้สูงสุด 2 ใบต่อคน
ตามที่แสดงในภาพด้านขวา แถวจะถูกแบ่งเป็น2แถว โดยแถวที่อยู่ใกล้ถนนที่สุดจะเป็นแถวที่มุ่งหน้าไปชิบูย่า

09:18 น
รถบัสด่วนที่มุ่งหน้าไปชิบูย่ามาถึงจุดขึ้นรถหมายเลข 10
กระเป๋าเดินทางที่ถูกวางเตรียมไว้ จุะถูกเจ้าหน้าที่นำไปใส่ในห้องเก็บสัมภาระของรถบัสให้
ที่นั่งเป็นที่นั่งแบบไม่ระบุที่นั่ง ลูกค้าที่ขึ้นจาก T3 หรือ T2 ก็ได้มีการนั่งกันแล้ว ดังนั้นเลยเลือกนั่งที่นั่งที่ว่างอยู่

09:21น
รถออกออกเดินทางช้ากว่ากำหนด 1 นาที
บนรถมี Wi-Fi และห้องน้ำ แต่เนื่องจากยังนอนไม่เต็มอิ่ม และการเคลื่อนตัวของรถบัสไม่ได้รบกวนการนอน เลยทำให้หลับสนิท นอกจากนี้ยังมีปลั๊กไฟให้บริการ ก่อนนอนเลยใช้โอกาสนี้ชาร์จโทรศัพท์มือถือไว้

10:30น
ฉันตื่นมาพร้อมเสียงประกาศ
ดูเหมือนว่าจะถึงชิบูย่าเร็วๆ นี้

10:40น
รถบัสจากสนามบินนาริตะแทบไม่เจอรถติดเลย และถึงที่หมายที่สถานีชิบูย่าตรงหน้า ‘Shibuya Fukuras Termianl ‘ ประมาณ 10:40 น. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเวลา 15 นาที การนั่งรถบัสนั้นสะดวกสบาย จนทำให้ฉันหลับสนิท แม้ว่าจะนอนน้อยแต่รู้สึกสดชื่นมาก การเดินทางด้วยรถบัสด่วนทำให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่จริงๆ!
เราจะลงที่ “Shibuya Fukuras Termianl ” คนส่วนใหญ่ลงจากที่นี่
หลังจากนี้ รถบัสด่วนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรม Cerulean Tower Tokyu → Shibuya Mark City (Shibuya Excel Hotel Tokyu)

เมื่อคุณลงจากรถบัส ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว “ชิบูย่าซัง” จะอยู่ตรงหน้าคุณ
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเสนอบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่หลากหลาย รวมถึงบริการรับฝากสัมภาระ แลกเงิน ข้อมูลการท่องเที่ยว (มีพนักงานพูดได้หลายภาษาคอยให้บริการอยู่ตลอด) ให้เช่า Wi-Fi ชาร์จสมาร์ทโฟน ขายตั๋วสำหรับรถบัสด่วน ฯลฯ
ด้่านข้างยังมีร้านสตาร์บัคส์ด้วย! ดีมากก!

ด้านในของศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว มีคาเฟ่ต์ และข้างๆ มีกระเป๋าเดินทางมากมาย ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากจะฝากสัมภาระไว้ที่นั่น คงจะสะดวกมาก ถ้ากฝากกระเป๋าเดินทางไว้ขณะเที่ยวชมชิบูย่าได้! ดูเหมือนว่าจะมีพนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ ในสถานที่ได้ ฉันเลยลองสอบถามกับพวกเขา

เนื่องจากยังมีเวลาอีกเยอะกว่าจะถึงเวลาเช็คอินที่โรงแรม เลยแวะไปที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว เพราะมีที่นั่งพักผ่อนและที่นี่มีฮีตเตอร์


เราอยากแนะนำนั่งรถบัสเที่ยวชมเมือง ” SHIBUYA STREET RIDE ” ซึ่งจะพาคุณไปรอบๆ ชิบูย่าด้วยรถบัสเปิดประทุน! รถนี้เหมาะกับทุกคนตั้งแต่เด็กๆจนถึงผู้สูงอายุ สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศบนรถและได้มองเห็นภาพรวมของชิบูย่าที่ไม่คุ้นมาก่อน!
นอกจากนี้ “SHIBUYA STREET RIDE” จะออกจากShibuya Fukuras Termianl ที่เราอยู่ ตอนเวลา 11:25 น. พอดีสุดๆ! เวลาเป๊ะขนาดนี้ ต้องลองแล้วล่ะ!
ฉันเลยฝากกระเป๋าไว้ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวและซื้อตั๋วทันที!
เราขอแนะนำให้ซื้อตั๋วสำหรับ “SHIBUYA STREET RIDE” ทางออนไลน์ เนื่องจากการซื้อทางออนไลน์นั้นถูกกว่าการซื้อที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ! → ค้นพบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
พนักงานที่เคาน์เตอร์ใจดีมาก ที่ให้ข้อมูลพิเศษนี้กับนักท่องเที่ยว และยังมีรหัส QR ไปยังเว็บไซต์ที่เคาน์เตอร์ตามที่แสดงในรูปภาพ แต่แน่นอนว่าสามารถซื้อได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

โปรดทราบว่า “SHIBUYA STREET RIDE” ปิดให้บริการทุกวันจันทร์และวันอังคาร ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

รูปด้านขวาคือค่าธรรมเนียมในการฝากสัมภาระ หลายคนฝากสัมภาระไว้ที่นั่น
เวลาทำการ: 10.00-19.30 น
กระเป๋าขนาดใหญ่: 1,000 เยน/1 ชิ้น ต่อวัน
กระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก (สูง 55 ซม. x กว้าง 40 ซม.): 500 เยน/ชิ้น ต่อวัน

ประมาณ 11.00 น
รถบัสเปิดหลังคาสีสันสดใสอันน่าตื่นเต้นมาถึงแล้ว
ถือโอกาสถ่ายภาพรถบัสเปิดประทุนเป็นที่ระลึกจากมุมต่างๆ
แสดงตั๋วของคุณกับพนักงานต้อนและขึ้นรถได้ทันที!

11:25น
ออกเดินทางสู่เมืองชิบูย่า! หลังจากการเดินทางข้ามคืนอันยาวนาน ในที่สุดเราก็มาถึงชิบูย่า ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ญี่ปุ่น
แยกชิบูย่าและรูปปั้นน้องหมาฮาจิโกะ คือสัญลักษณ์ของชิบูย่า แต่การได้ชมเมืองชิบูย่าทั้งเมืองด้วยรถบัสเปิดประทุน “ SHIBUYA STREET RIDE ” ถือเป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์มาก

หลังจากนี้การเดินเล่นรอบๆ ชิบูย่าจะสนุกยิ่งขึ้น และทั้งครอบครัวก็สามารถเพลิดเพลินได้
ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถเพลิดเพลินได้เพียงแค่นั่งบนรถบัส ซึ่งดีต่อร่างกายที่เหนื่อยล้าหลังจากการเดินทางอันยาวนาน

หลังจากเพลิดเพลินกับทางข้ามแยกชิบุยะ ฮาราจูกุ ถนนทาเคชิตะ จินกุไกเอ็น สนามกีฬาแห่งชาติ และโอโมเตะซันโดะจากรถบัสประมาณหนึ่งชั่วโมง คุณจะกลับไปShibuya Fukuras Terminal

หลังลงจากรถบัสแล้ว คุณสามารถเที่ยวชมชิบูย่า ด้วยการดูคู่มือเดินชมเมือง ‘SHIBUYA STREET RIDE’ ที่มีเฉพาะสำหรับผู้โดยสาร ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่พลาดจุดเด่นต่างๆ ของชิบูย่า!

เรานั่งรถบัสช่วงกลางวัน แต่ถ้าคุณนั่งรถบัสช่วงเย็น (18:20 น.) คุณสามารถชมการประดับไฟของโอโมเตะซันโดในฤดูหนาวได้จากชั้น 2 ของรถบัสเปิดประทุนครั้งต่อไปก็อยากลองขึ้นรถบัสรอบเย็นบ้าง เพราะอยากลองสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ

เวลาประมาณ 12.30 น
กลับไปที่ Shibuya Fukuras Terminal

มื้อเที่ยงมื้อแรกที่ญี่ปุ่นควรกินอะไร? ฉันเลยลองปรึกษากับศุนย์ข้อมูลท่องเที่ยวอีกครั้ง!

การเดินทางแสนสนุกไปญี่ปุ่นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!


ชิบูย่าเป็นเมืองที่มีบรรยากาศแบบไหน?

ชิบูย่าเป็นย่านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมักจะเป็นที่แรกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาเยือนเมื่อมาโตเกียว
เพราะว่ที่นี่จะสัมผัสถึงพลังและความมีชีวิตชีวาของโตเกียวได้

ชิบูย่ามีสถานีรถไฟที่สำคัญของโตเกียว และเป็นหนึ่งในย่านกลางเมืองที่โดดเด่นที่สุดของโตเกียว
นอกจากนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนหนุ่มสาวและเป็นแหล่งแฟชั่นและวัฒนธรรม เหมือนกับ Times Square ในNew York /Piccadilly Circus ในLondon และSiam ในกรุงเทพฯ

สถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยอดนิยมบริเวณสถานีชิบูยาและสถานีขนส่งชิบูย่าคือที่ไหน?

Shibuya Scramble Crossing : คือสี่แยกที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

ฮาจิโกะ : ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของความภักดีและความรัก เรื่องราวของฮาจิโกะเป็นที่รู้จักไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นแต่ทั่วโลก

Shibuya 109 : เมืองหลวงแห่งแฟชั่นของญี่ปุ่น ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับเทรนด์ใหม่ล่าสุด

SHIBUYA SKY : สัญลักษณ์ใหม่ของชิบูย่า ยอดนิยมจากทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิจากจุดชมวิวบนชั้นดาดฟ้าที่ความสูง 229 เมตรเหนือพื้นดิน

SHIBUYA STREET RIDE : รถบัสเที่ยวชมสถานที่ทั่วไปที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับเมืองชิบูย่าและบริเวณโดยรอบบนรถบัสเปิดประทุนสองชั้น

เมื่อคุณมาถึงญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้มุ่งหน้าไปที่ชิบูย่าและเพลิดเพลินกับชิบูย่าก่อน –

รายละเอียดรถบัสด่วน (ลีมูซีนสนามบิน) จากสนามบินนาริตะไปยังชิบุูย่า

รายละเอียดรถบัสด่วน (ลีมูซีนสนามบิน) จากสนามบินฮาเนดะไปยังชิบูย่า

หากต้องการรับฝากสัมภาระและข้อมูลการท่องเที่ยวในชิบูย่า โปรดไปที่ “ชิบูย่าซัง”


วิธีเดินทางไปยังชินจูกุ อิเคบุคุโระ และชินากาวะจากชิบูย่า

คุณสามารถเดินทางจากชิบูย่าไปยังชินจูกุ อิเคะบุคุโระ ชินากาวะ ฯลฯ ได้อย่างง่ายดายด้วยรถไฟ

จากสถานี JR ชิบูย่า ถึง JR ชินจูกุ
7 นาที โดยสายยามาโนเตะ (วงนอก) “ชานชาลา 1”
5 นาที โดยสายไซเคียวหรือสายโชนัน-ชินจูกุ “ชานชาลา 3”

จากสถานีรถไฟใต้ดินชิบูย่าไปยังสถานีชินจูกุซันโจเมะ
โตเกียวเมโทรสายฟุกุโตะชิน 6 นาที

จากสถานี JR ชิบูย่า ถึงสถานี JR อิเคบุคุโระ
16 นาที โดยสายยามาโนเตะ (วงนอก) “ชานชาลา 1”
11 นาที โดยสายสายไซเคียวหรือสายโชนัน-ชินจูกุ “ชานชาลา 3”

จากสถานีรถไฟใต้ดินชิบูย่าถึงสถานีรถไฟใต้ดินอิเคะบุคุโระ
โตเกียวเมโทรสายฟุกุโตะชิน 12 นาที

จากสถานี JR ชิบุยะไปยังสถานี JR ชินากาวะ
15 นาที โดบสายยามาโนเตะ (วงใน) “ชานชาลา 2”

ความร่วมมือด้านการผลิต : Tokyu Bus Corporation